- สมัยอินโด- อารยันรุกราน (2,500- 2,000 C.) เป็นสมัยที่มีการรุกรานระยะแรกและเกิดการสู้รบระหว่างชาวดราวิดียนและอารยันมีการขยายตัวไปทางตะวันออก
- สมัยพระเวท (2,000 -1,000 C.)สมัยที่อารยันได้รับชัยชนะ มีการตั้งถิ่นฐานและสถาปนาเป็นอาณาจักรเล็กๆ มีราชาเป็นผู้นำทางการปกครอง พวกมิลักขะหรือดราวิเดียนถอยลงไปอยู่ทางตอนใต้ อารยันรับเอาขนบธรรมเนียมประเพณีของดราวิเดียนมาใช้ ต่อมาพวกอารยันได้กำเนิดระบบวรรณะขึ้น เพื่อแบ่งแยกและรักษาความบริสุทธิ์ทางเชื้อชาติ มีคัมภีร์พระเวท เป็นคัมภีร์ทางศาสนาและวิถีชีวิต วัฒนธรรมของอารยัน
- สมัยมหากาพย์(1,000 – 500 C.) เกิดอาณาจักรใหม่บริเวณลุ่มน้ำคงคามีลักษณะเป็นนครรัฐอิสระ “ ราชา” เป็นผู้ปกครอง แบบราชาธิปไตย (monarchy) มีฐานะเป็นสมมุติเทพ เช่น อาณาจักรมคธ วัชชั อวันตี วิเทหะ ฯลฯ มีการแบ่งวรรณะชัดเจน 4 วรรณะ พราหมณ์ กษัตริย์(นักรบ) แพศย์ ศูทร(ทาส) มีการติดต่อค้าขายทางเรือ กับอาณาจักรเมโสโปเตเมีย อียิปต์ อาราเบีย สมัยนี้จะมีวรรณกรรมที่สำคัญ คือ มหากาพย์มหาภารตยุทธ เป็นสงครามกลางเมืองที่ทุ่งกุรุเกษตรระหว่างตระกูล ปาณฑพและเการพต้นตระกูลเป็นเชื้อสาย อินโด-อารยัน มีการสอดแทรกบทบาทหน้าที่ของคนที่อยู่ในสังคม ดังปรากฎใน “ภควัทตีคา” สอนในคนทำหน้าที่ของตนในสังคมให้ครบถ้วย และมหากาพย์รามายณะ ที่สะท้อนให้เห็นถึงการแบ่งชั้นวรรณะ การขยายอาณาเขตของอารยันไปทางตอนใต้ทำสงคราม ปราบชาวดราวิเดียน
- สมัยจักรวรรดิ ( 321 C. – 220 A.D.) ช่วง 6 B.C. มีอาณาจักรทางเหนือที่เข้มแข็ง 2 อาณาจักรคือ มคธ นำโดย (พระเจ้าพิมพิสาร) และแค้วนโกศล ที่ขยายอำนาจปกครองดินแดนตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดีย ต่อมาถูกเปอร์เชียรุกราน ต้นศตวรรษที่ 3 ก่อนค.ศ. พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชแห่งมาซิโดเนีย (กรีก) ยกทัพมารุกรานครองตอนเหนือของอินเดีย ทำให้อินเดียได้รับอิทธิพลการเขียนอักษรแบบอารบิคจากเปอร์เชีย (ต่อมาพัฒนาเป็นอักษร ขโรษติ โดยพระเจ้าอโศกมหาราชใช้เขียนจารึก) การทำเหรียญเงิน
- สมัยคุปตะ (320-550 A.D.) ถือว่าเป็นยุคทองของฮินดูทางตอนเหนือ ต้นคริสต์ ศตวรรษทที่ 4 พระเจ้าจันทรคุปต์ที่ 1 ตั้งราชวงศ์คุปตะที่เมืองปัตลีบุตร โอรสของพระองค์ ชื่อ พระเจ้าสมุทรคุปต์ ทรงขยายดินแดนออกไปกว้างไกล ทรงทำเหรียญทองสลักเรื่องราวเกี่ยวกับพระองค์ แล้วนำไปไว้ที่เสาหินของพระเจ้าอโศก ราชวงศ์คุปตะรุ่งเรืองมากในสมัยของพระเจ้าจันทรคุปต์ ที่ 2 (ค.ศ.376-415) เพราะนอกจากจะชนะพวกสากะแล้ว ทรงรวมดินแดนตะวันออกและทางเหนือไว้ในอำนาจ ทรงสนับสนุนศิลปะ วิทยาศาสตร์ วรรณคดี กวีที่มีชื่อเสียงในสมัยนี้ คือ กลิทัษ การปกครองสมัยคุปตะเป็นแบบกระจายอำนาจไปตามท้องถิ่น การค้าเจริญขึ้นมาก มีการค้าขายมากขึ้นกับเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ หมู่เกาะอินโดนีเซีย มาเลเซีย กัมพูชา และประเทศไทย พ่อค้าที่ร่ำรวยนิยมบริจาคเงินเพื่อสร้างงานสำคัญทางศาสนา เช่น สถูปที่สัญจี อมาราวาตี ฯลฯ วัดพุทธกลายเป็นเจ้าของที่ดินมากมาย ภาษาสันสกฤตกลายเป็นภาษาของผู้รู้หนังสือและเป็นภาษาที่ใช้ในราชการ มีหนังสือกามสูตรเกิดขึ้น เป็นหนังสือที่ชี้ถึงความสำคัญของชีวิตคู่และเพศสัมพันธ์
เกี่ยวข้อง : เครื่องทาบบัตร เพิ่มความสูง ทัวร์ญี่ปุ่นราคาถูก เหมาแท็กซี่ รถบรรทุก ลงประกาศขายรถฟรี